tas-go.com
ต้มเลือดหมูตำลึง ช่วงนี้สุขภาพเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก การที่เราต้องจ้องหน้าคอมหรือเล่นโทรศัพท์มือถือเป็นเวลานานก็ส่งผลให้สายตาของเราล้าและมีปัญหาทานสายตามากยิ่งขึ้น ตำลึงก็เป็นอีกหนึ่งสมุนไพรที่ช่วยบำรุงสายตาได้ดี แถมยังได้ประโยชน์จากสารอาหารอีกเพียบ วันนี้เราจึงขอเสนอเมนูเอาใจคนทางบ้านกันสักหน่อยกับ เมนูต้มเลือดหมูตำลึง ทำทานง่ายได้ที่บ้าน จะเป็นอย่างไรกันไปเริ่มทำกันเลย วัตถุดิบ เลือดหมู ตับลวก หมูบด ตำลึง กระเทียมเจียว ขึ้นฉ่าย ส่วนผสม น้ำเปล่า กระดูกหมู รากผักชี กระเทียม พริกไทย เกลือ น้ำตาลทราย ซีอิ๊วขาว น้ำซุป ขั้นตอนการทำ 1. โขลกส่วนผสมเริ่มจากพริกไทยดำ ตามด้วยกระเทียม รากผักชี โขลกให้เข้ากันพอหยาบ 2. ขั้นตอนต่อมาให้ตั้งหม้อใส่น้ำ ใส่กระดูกหมูลงไปต้ม ต้มให้น้ำซุปหอมเปิดไฟอ่อนต้มให้หมูสุก เมื่อหมูเริ่มสุกให้ใส่ส่วนผสมที่เตรียมไว้ลงไป ตามด้วยเกลือ น้ำตาลทราย ซีอิ๊วขาว จากนั้นคนส่วนผสมให้เข้ากัน 3. จากนั้นค่อยๆตักกระดูกหมูอ่อนและใส่หมูสับลงไป ปั้นพอเป็นก้อนไม่ต้องใหญ่มาก ตามด้วยตับหมูลวกสุกและเลือดหมู ต้มไปเรื่อยๆให้เลือดหมูสุกสักเล็กน้อย คนส่วนผสมให้เข้ากัน 4. เมื่อเนื้อสัตว์ต่างๆสุกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ให้เราใส่ตำลึงลงไปคนส่วนผสมให้เข้ากันไม่ต้องคนนานปิดไฟ เป็นอันพร้อมเสิร์ฟ เสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยสำหรับ เมนูต้มเลือดหมูตำลึง ทานคู่กับข้าวสวยร้อนๆ เมนูทานเหยาะน้ำปลาใส่พริกป่นและน้ำซุปอีกหน่อยเพิ่มรสชาติแซ่บๆ ขอบอกว่าเป็นอะไรให้เข้ากันสุดๆ วิดิโอแสดงขั้นตอนการทำอาหาร ขอบคุณวิดิโอและรูปภาพจาก TidReview ชีวิตติดรีวิว #ดูหนังดีที่นี่ #ซีรี่ย์ใหม่ #เมนูอาหาร #รีวิวที่พักร้านอาหารเด็ดๆ
(ตี 5 ถึงบ่ายโมงครึ่ง) ถ้าวันไหนปิดทางร้านจะแจ้งผ่านเฟสบุ๊คด้านล่าง Facebook: แม่ประยูรต้มเครื่องในหมู-นครสวรรค์ หน้าร้านแม่ประยูรต้มเครื่องในหมู จ. นครสวรรค์ ที่จอดรถสามารถจอดได้บริเวณหน้าร้านทั้งสองฝั่งถนน และนอกจากต้มเครื่องในหมูแล้ว ยังมีขนมไทยอื่น ๆ ขายบริเวณหน้าร้านอีกด้วย ใครผ่านไปมาแถวนครสวรรค์ อย่าลืมแวะที่ร้านแม่ประยูรกัน รับรองไม่ผิดหวัง!
นำกุ้งสดมาแกะเปลือก ผ่าหลังแล้วล้างให้สะอาด 2. ตั้งกระทะเทน้ำมันพืชลงไป นำกระเทียมลงไปเจียวพอมีกลิ่นหอม ใส่กุ้งสดผัดพอสุก ตามด้วยดอกขจร แครอต และเห็ด ผัดให้พอสุก 3. ปรุงรสด้วยน้ำตาลทราย ซีอิ๊วขาว และน้ำมันหอย ผัดจนทุกอย่างสุก 5. ต้มเลือดหมูตำลึง ส่วนผสม ต้มเลือดหมู กระดูกหมู 300 กรัม กระเทียม 2 หัว รากผักชี 2 ราก พริกไทยเม็ด 1 ช้อนโต๊ะ ตับหมู 200 กรัม หัวใจหมู 200 กรัม เลือดหมู 1 ก้อน กระเพาะหมู 200 กรัม ไส้อ่อน และไส้ใหญ่หมู 300 กรัม พริกไทยป่น ต้นหอมกับผักชีซอย 1/2 ถ้วย กากหมูกระเทียมเจียว 1/2 ถ้วย ตั้งฉ่าย ใบตำลึง 1 ถ้วย ซีอิ๊วขาว พริกน้ำส้ม พริกป่น น้ำตาลทราย วิธีทำ ต้มเลือดหมู 1. จัดการล้างกระดูกหมูให้สะอาด ใส่ลงไปต้มกับน้ำเดือด ใส่กระเทียม ไม่ต้องทุบ ไม่ต้องปอกเปลือก แต่ล้างก่อน ใส่รากผักชี ใส่ถุงพริกไทยลงไป ตามด้วยกระเพาะหมูและไส้ใหญ่หมู ต้มประมาณ 1 ชั่วโมง หรือจนสุกเปื่อยก่อน 2. หั่นตับสดเป็นชิ้นบางแต่ขนาดใหญ่ และแล่หัวใจหมูเป็นชิ้นบางแต่ใหญ่เหมือนตับ พักไว้ แล้วเอาเลือดหมูมาหั่นสี่เหลี่ยมเต๋าพอคำ พอไส้อ่อนต้มสุกเปื่อยแล้วก็หั่นเป็นชิ้นพอคำ รอไว้เช่นกัน 3. เคี่ยวน้ำซุปกระดูกหมูใช้เวลาอย่างน้อย 1-2 ชั่วโมง หมั่นช้อนฟองออกด้วย นำส่วนผสมเครื่องในทุกอย่าง ได้แก่ เลือดหมู หัวใจหมู กระเพาะหมู ไส้อ่อน และไส้ใหญ่หมู ลงไปลวกในน้ำซุป 4.
30. น-16. 00. น ทุกวันโดยนักชิมจะแวะเวียนมาลิ้มลองรสชาติในแต่ละวันจำนวนมากโดยเฉพาะช่วงพักเที่ยงคนจะเยอะเป็นพิเศษ หากใครอยากแวะมาทานสามารถโทร. สั่งล่วงหน้าได้ที่เบอร์ 089-691-0516 ร้านเปิดทุกวัน.
หลักสูตร โจ๊ก และต้มเลือดหมู เรียนวันพุธที่ 10 ม. ค. 61 เวลา 10. 30-16. 00 น. อ.
เว็บไซต์น่าสนใจ เว็บไซต์รีวิวร้านอาหารแนะนำ รีวิวร้านอาหาร ร้านก๋วยเตี๋ยว สตรีทฟู้ด อาหารใต้ อาหารเหนือ อาหารซีฟู๊ด อาหารอีสาน ร้านของหวาน ร้านบุฟเฟ่ต์ เว็บไอทีแนะนำ ข่าววงการไอที คัดข่าวเด่นจากวงการไอทีทั่วโลก อัพเดทข่าวไอทีล่าสุด ราคามือถือ ข่าวมือถือ วันที่เปิดตัว รีวิว Gadget เปิดตัวสินค้า IT
เคล้าผักกูดกับน้ำยำเบา ๆ ให้เข้ากัน ใส่ถั่วลิสง ตักใส่จาน ราดหัวกะทิ โรยปลาสลิดกรอบกับหอมแดงเจียว จัดเสิร์ฟ 3. เมนูอาหารจากผัก สะเดาน้ำปลาหวาน ส่วนผสม สะเดาน้ำปลาหวาน ยอดสะเดา หอมแดง 5 หัว กระเทียม 10 กลีบใหญ่ พริกแห้ง 9 เม็ด น้ำมัน สำหรับทอด น้ำตาลมะพร้าว 50 กรัม น้ำเปล่า 75 มิลลิลิตร น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ น้ำมะขามเปียก 2 ช้อนชา ปลา สำหรับย่าง วิธีทำ สะเดาน้ำปลาหวาน 1. นำสะเดามาลวกน้ำร้อนแค่พอสะดุ้ง เติมน้ำตาลทรายเล็กน้อย จากนั้นนำไปแช่น้ำเย็นจัด แล้วนำขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ 2. เตรียมย่างปลา ถ้าปลามีเกล็ดย่างทั้งเกล็ดเลย ง่าย เร็ว เนื้อนุ่มอร่อย 3. ใส่น้ำมันพืชลงในกระทะพอร้อน นำหอมแดงซอย กระเทียมซอย และพริกแห้ง มาทอดจนเหลืองกรอบ พักไว้ 4. ทำน้ำปลาหวานเริ่มจากตั้งกระทะใช้ไฟอ่อน ใส่น้ำตาลมะพร้าว เติมน้ำเปล่า และน้ำปลา คนจนละลายชิมรสตามชอบ แอนชอบที่จะเติมน้ำตาลทรายเพิ่มไปนิดหนึ่ง จากนั้นเติมน้ำมะขามเปียกเล็กน้อย พอเริ่มหนืดให้ยกลง ตักใส่ถ้วยพร้อมเสิร์ฟ 4. ดอกขจรผัดน้ำมันหอย ส่วนผสม ดอกขจรผัดน้ำมันหอย กุ้งสด แครอต เห็ดออรินจิ ดอกขจร น้ำมันพืช กระเทียม (บุบพอแตก) น้ำตาลทราย ซีอิ๊วขาว น้ำมันหอย วิธีทำ ดอกขจรผัดน้ำมันหอย 1.
พูดถึงต้มจืด เราทานกันมาเยอะมากแล้ว วันนี้เรามาทำต้มเลือดหมู กันบ้างดีกว่า ใครชอบทานอะไรที่เป็นน้ำๆแล้วละก็ต้องบอกว่า ต้องเมนูนี้เลยจ้า อร่อยเข้มข้น เคยทานกันบ้างไหมน้ำซุปต้ม เ ลื o ด ห มู แบบเข้มข้น ใครชอบกินเ ลื o ด ห มู เข้ม ๆ อ ย่ าพลาด ปรุงแบบไหนให้อร่อยไม่คาวต้องทำตามสูตรนี้เลย หรือใครอ ย า กจะทำเมนูต้ม เ ลื o ด ห มู ขายต้องลอง จะเป็นสูตรที่ขายดิบขายดี กำไรเป็นกอบเป็นกำกันเลยทีเดียว ถ้าพร้อมแล้วมาลุยกันเลย วัตถุดิบและส่วนผสม 1. กระ ดู ก ห มู 2 ข้อ 2. พริกไ ท ยเม็ด 2 ช้อนชา 3. รากผักชีทุบ 10 ราก 4. กระเทียม 3 หัว 5. น้ำสะอาด 6. เกลือ 1 ช้อนชา 7. น้ำเปล่า 1 ช้อนโต๊ะ 8. น้ำตาล 2 ช้อนโต๊ะ ขั้นตอนการทำ – อากระ ดู ก ห มู ลงมาต้นในหม้อ ใส่น้ำลงไปพอท่วมก ระดู กใช้ไฟแรง ๆ พอน้ำเดือดแล้วค่อยปรุง ตามเครื่องปรุงที่เตรียมไว้เลย – พอมีฟองให้ตักฟองออก แล้วเมื่อเดือดอีกสักพักให้ปิดไฟยกลงเตาได้เลย – ตั กก ร ะ ดู กออกมาแล้วกรองน้ำซุป ออกมา เอาแต่น้ำใส ๆ นั้น – เสร็จแล้วน้ำซุ ปต่อมาก็ทำในส่วน ข อ ง ต้ ม เ ลื o ด ห มู ต่อ วัตถุดิบและส่วนผสมของต้ม เ ลื o ด ห มู 1. เลื o ด ห มู ต้มสุก 1 ก้อน 2. ตั บ ห มู 100 กรัม 3.
จัดใส่ถ้วยที่รองก้นชามด้วยตำลึงและตั้งฉ่าย ใส่กากหมูกระเทียมเจียว จากนั้นเติมน้ำซุปร้อน ๆ ลงไป โรยหน้าด้วยพริกไทย ต้นหอม และผักชีซอย ปรุงรสด้วยพริกป่น พริกน้ำส้ม น้ำตาลทราย และน้ำปลา เสิร์ฟกับข้าวสวยร้อน ๆ 6. กรานิต้าฟักข้าวเสาวรส ส่วนผสม กรานิต้าฟักข้าวเสาวรส ฟักข้าวสุก น้ำเสาวรส น้ำตาลทรายป่น วิธีทำ กรานิต้าฟักข้าวเสาวรส 1. เริ่มจากการแยกเม็ดกับเนื้อฟักข้าวออกจากกัน ใช้ช้อนตักได้เลยครับผม คว้านออกได้ทั้งหมด เทรวมกันแล้วนำไปปั่น จากนั้นก็นำไปต้มให้เดือด 1 ครั้ง 2. เติมน้ำตาลทรายลงไปเล็กน้อย แล้วก็เติมน้ำเสาวรสลงไป ในสูตรใช้อัตราส่วน ฟักข้าว 1 ลูก ต่อน้ำเสาวรส 1 ลิตร ถ้าชอบเปรี้ยวไม่ต้องเติมน้ำตาลทรายก็ได้ 3. เมื่อเติมน้ำเสาวรสแล้วก็นำใส่ภาชนะที่จะแช่เย็น พอแช่เย็นจนเริ่มเป็นเกล็ดน้ำแข็ง แต่ยังไม่ต้องแข็งมาก เอาออกมาคน ยิ่งนำออกมาคนบ่อย เนื้อจะยิ่งเนียน ในสูตรคน 2 รอบ พร้อมเสิร์ฟ ยิ่งใครทำงานอยู่ในเมืองแล้ว ถ้าร้านอาหารตามสั่ง ไม่มีผักพื้นบ้าน ก็ลองไปตลาดซื้อผักต่าง ๆ แล้วเข้าครัวทำ เมนูอาหารจากผัก ทำง่าย ไม่ต้องลงทุนเยอะ จาก tomzaab กันดูนะคะ บอกเลยว่า ทำกินวนไปไม่เบื่อแน่นอน