tas-go.com
ไม่ว่าเส้นทางไลฟ์สไตล์แบบไหนที่คุณจะก้าวเดินไป ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่รองเท้าของคุณจะสกปรก อย่างไรก็ตาม คุณไม่ควรที่จะต้องเดินไปมาไหนด้วยรองเท้าที่แลดูเก่าโทรม การทำความสะอาดง่ายๆ จะช่วยขจัดคราบดินและคราบสกปรกออกไป ทำให้รองเท้าของคุณดูสะอาดเหมือนใหม่! และในบทความนี้จะอธิบายขั้นตอนแสนง่ายของการซักรองเท้าผ้าใบ รองเท้าสำหรับออกกำลังกายหรือเล่นกีฬาอย่างรองเท้าเทนนิส และอื่นๆ ด้วยเครื่องซักผ้า ขั้นตอน 1 แกะเชือกรองเท้าออก. แล้วจะนำไปซักด้วยหรือซื้อใหม่ก็ได้ 2 นำแปรงสีฟันหรือแปรงขัดชนิดแข็งมาขัดคราบดินสกปรกส่วนเกินออก. 3 สำหรับส่วนที่เป็นร่องต่างๆ ให้ใช้แปรงสีฟันหรือคอตตอนบัดในการทำความสะอาดโดยใช้ควบคู่กับครีมทำความสะอาด. เช่น ยี่ห้อ Cif/ซิฟ หรือใช้ผงฟูก็ได้เช่นกัน และสำหรับส่วนอื่นๆ ที่เป็นพลาสติกนั้น ให้ป้ายครีมลงบนผ้าหรือกระดาษทิชชูอย่างหนาก่อนแล้วจึงเช็ด 4 หากคุณจะซักเชือกผูกรองเท้า ให้ผูกปลายเชือกทั้งสองด้านเข้าด้วยกัน จะได้ลักษณะเป็นวงเชือก. การทำเช่นนี้ช่วยไม่ให้เชือกรองเท้าเข้าไปติดตามรูของถังเครื่องซักผ้า ถ้าเชือกผูกรองเท้าเป็นสีขาวแต่รองเท้าเป็นสีสันอื่นๆ คุณก็สามารถแยกมันไปซักรวมกับผ้าขาวอื่นๆ ได้ เพื่อเป็นการคงความสว่างสดใสของสีเชือกรองเท้าเท่าที่เป็นไปได้นั่นเอง แต่ก็ไม่เป็นไร หากคุณต้องการซักเชือกรวมกับรองเท้าไปเลย 5 นำรองเท้า (และเชือกผูกรองเท้า ถ้าต้องการ) ใส่ในปลอกหมอน.
น้ำยาซักผ้า หากเป็นซักอบรีดจะเป็นการซักในระบบน้ำ ควรเลือกน้ำยาซักผ้าที่เป็นน้ำ ไม่ควรเลือกผงซักฟอก เพราะเวลาใช้ผงซักฟอก หากเครื่องตีผงไม่แตกแป้งของผงซักฟอกจะติดบนเสื้อเป็นคราบขาวๆ แต่ถ้าใช้น้ำยาซักผ้าชนิดน้ำจะไม่มีปัญหา 5. น้ำยาปรับผ้านุ่ม ควรเติมหลังจากการซักน้ำในรอบที่ 2 เสร็จ ไม่ควรเติมเข้าไปในเครื่องโดยหวังว่าทางเครื่องซักผ้าจะควบคุมการปล่อยโดยอัตโนมัติ เพราะหากไม่เป็นเช่นนั้น น้ำยาปรับผ้านุ่มจะลงไปเคลือบผ้าก่อนทำให้การซักผ้าไม่สะอาด 6. วิธีรับผ้าโดยลูกค้ามีอยู่ 2 ประเภท ลูกค้าขาจร เวลาจัดส่งผ้ามาให้จดยอดลงบิลและส่งสำเนาให้ลูกค้าถือ ส่วนลูกค้าประจำก็จดลงบิลของลูกค้าประจำแยกออกจากกันให้เห็นลักษณะชัดเจน 7. หนึ่งในหัวใจของการเปิดร้านซักอบรีดคือ การซักผ้าให้สะอาด ขั้นตอนแรก เมื่อได้จดยอดเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วก็ต้องนำผ้ามาสำรวจว่ามีอะไรติดอยู่ในกระเป๋าหรือไม่ โดยเฉพาะกระดาษทิชชู หากลงตู้ซักผ้าแล้วจะเปื่อยติดเป็นขุยเกาะเสื้อทำให้เสื้อที่ซักไม่สะอาด 8. ทำการสำรวจจุดสกปรกต่างๆ บนตัวผ้า ถ้าเป็นเสื้อส่วนใหญ่ก็จะที่ตำแหน่งคอปก กางเกงจะตำแหน่งปลายเท้า ให้ทำผ้าให้เปียก นำน้ำยาซักผ้าปาดแล้วถูด้วยมือให้คราบเหล่านี้ออกก่อนที่จะโยนผ้าลงเครื่อง 9.
ซักผ้า ( 洗濯: sentaku) อ.
เสื้อกันหนาว อากาศช่วงนี้กำลังเย็นได้ที่ หลายคนก็เลยค้นเสื้อกันหนาวที่เก็บเอาไว้ออกมาใส่ แต่ก่อนจะใส่ก็ต้องซักทำความสะอาดลดกลิ่นอับกันก่อน โดยขั้นแรกให้แยกผ้าสีและผ้าขาว ซึ่งก่อนจะนำเสื้อกันหนาวไปซัก ก็ควรนำเสื้อกันหนาวใส่ถุงซักผ้าก่อน เพื่อป้องกันใยผ้าหลุดลุ่ยเสียหาย คราวนี้คุณก็นำเสื้อกันหนาวไปซักได้ตามปกติเลย แต่พอเครื่องซักผ้าหยุดทำงานแล้ว ให้คุณรีบนำเสื้อกันหนาวมาสะบัดแรง ๆ แล้วแขวนตากทันที เสื้อกันหนาวจะได้ไม่ยับ และแห้งสนิทได้เร็วทันใจ หรือจะใช้น้ำยาซักแห้งป้ายตามคราบต่าง ๆ แล้วนำไปใส่ในถุงผ้าสำหรับซักแห้ง จากนั้นนำไปเข้าเครื่องอบผ้าก็ยิ่งดีค่ะ 4. ผ้าขนสัตว์ และผ้าแคชเมียร์ เสื้อกันหนาวขนสัตว์ และผ้าแคชเมียร์บางชิ้นก็สามารถซักทำความสะอาดได้ตามปกติ ซึ่งคุณควรตรวจสอบตรงป้ายที่ติดมากับผ้าให้ดี หรือไม่อย่างนั้นก็นำผ้าขนสัตว์ไปซักในเครื่องซักผ้าด้วยระบบซักที่เบาที่สุดก็ได้ เสร็จแล้วก็นำผ้าขนสัตว์ไปตากแห้งตามปกติ แต่สำหรับผ้าแคชเมียร์อาจจะต้องซักมือ และตากลมให้แห้งแทนนะคะ ไม่อย่างนั้นก็ใช้น้ำยาซักแห้งมาช่วยและเข้าเครื่องอบก็ได้เหมือนกัน 5. เสื้อคลุมและผ้าไหม หากเสื้อคลุมและผ้าไหมของคุณไม่ได้มีป้ายประกาศว่า ต้องซักแห้งเท่านั้น ก็แสดงว่าคุณสามารถซักเสื้อผ้าเหล่านี้ด้วยเครื่องซักผ้าระบบเบาที่สุดได้เช่นกัน หรือถ้าไม่มั่นใจ ก็ใช้น้ำยาซักแห้ง ใส่ถุงผ้าสำหรับซักแห้ง และนำเข้าเครื่องอบผ้าได้เลย 6.
ทางร้านเราก็รับผลิตเสื้อยืดนะ สำหรับผ้า Cotton รับผลิตจำนวน 100 ตัวขึ้นไป สำหรับผ้า TC ผลิตได้ไม่มีขั้นต่ำ(สีขาวเท่านั้น) สนใจส่งรายละเอียดมาสอบถามกันได้ คลิ๊กดูช่องทางการติดต่อ ที่นี่ ขอให้สนุกกับการทำเสื้อยืดครับ พบกันใหม่โพสหน้า Post Views: 73, 135
ชุดสูท สำหรับชุดสูทที่ไม่มีคราบสกปรกมาก สามารถทำความสะอาดเองได้ง่าย ๆ โดยก่อนนำชุดสูทไปซักในเครื่องซักผ้า ให้ม้วนชุดสูทด้วยเสื้อแจ็คเก็ตประมาณ 2-3 รอบเป็นอย่างต่ำ แล้วนำชุดสูทไปซักในเครื่องซักผ้าตามปกติได้เลย เสร็จแล้วก็สะบัดผ้าแรง ๆ ให้คลายรอยยับ ก่อนนำไปตากลมจนแห้งสนิท 7. รีดผ้าเรียบอย่างมืออาชีพ หากเหตุผลที่คุณส่งผ้าไปซักแห้งบ่อย ๆ เป็นเพราะต้องการให้เสื้อผ้าเรียบกริบ ด้วยมือผู้เชี่ยวชาญในการซักรีดเท่านั้น แนะนำให้คุณลงทุนซื้อเครื่องรีดผ้าระบบไอน้ำ ที่ร้านซักรีดส่วนใหญ่นิยมใช้มาเลยจะดีกว่า สนนราคาก็ไม่เกิน 20, 000 บาท เป็นการลงทุนครั้งเดียวที่ค่อนข้างคุ้มค่าในระยะยาวเลยล่ะค่ะ งานซักรีดเสื้อผ้าในบ้านอาจจะเป็นงานที่น่าเบื่อสุด ๆ แต่ก็ไม่ได้เป็นงานที่ยากเย็นซะทีเดียว ดังนั้นหากคุณอยากจะประหยัดค่าใช้จ่ายในการส่งเสื้อผ้าไปซักรีดที่ร้าน ก็ลองนำวิธีซักแห้งของเราไปใช้กันได้นะจ๊ะ เรื่องที่คุณอาจสนใจ