tas-go.com
วางแผนค่าอาหารการกิน ค่าอาหารเป็นส่วนหนึ่งของรายจ่ายคงที่ในแต่ละเดือน และมักจะเป็นรายจ่ายก้อนใหญ่ที่สุดในชีวิตประจำวัน ถ้าลดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ได้ก็จะทำให้ออมเงินได้มากขึ้น โดยมีอยู่สองวิธี คือ ทำอาหารเอง เพราะวัตถุดิบแต่ละอย่าง สามารถนำมาแบ่งทำอาหารได้หลายมื้อ ทำให้มีรายจ่ายถูกกว่าการซื้ออาหารตามร้านค้าหรือตามห้างสรรพสินค้า แถมยังสามารถเลือกเมนูได้เอง รู้ว่าปรุงรสด้วยอะไรไปบ้าง ล้างวัตถุดิบได้สะอาดแค่ไหน ทำให้มีสุขภาพดีกว่าซื้อแต่อาหารตามร้านค้า แชร์กับข้าวกับเพื่อนร่วมงาน ถ้าสามารถสั่งกับข้าวมาแชร์กันได้ ก็จะได้กินอาหารที่หลากหลาย เปลี่ยนบรรยากาศ และประหยัดเงินอีกด้วย 4. หาอาชีพเสริม ถ้ามีภาระทางการเงินมากจนไม่สามารถออมได้ตามเป้าหมาย อีกทางเลือกหนึ่งสำหรับมนุษย์เงินเดือนคือการหาอาชีพเสริม โดยควรเป็นงานที่ใช้เวลาไม่มาก สามารถทำได้เวลาว่างได้ เช่น ขายของออนไลน์ ก็เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับยุคปัจจุบัน หรือถ้ามีความรู้ความสามารถในเรื่องใดเรื่องหนึ่งก็สามารถเขียนบล็อก ทำแชแนลยูทูปเพื่อเผยแพร่ความรู้ของตนเอง ยิ่งถ้ามีสกิลการเล่าเรื่องที่สนุกสนาน สามารถเอนเตอร์เทนคนอ่านและคนดูได้ บล็อกหรือยูทูปก็จะมียอดคนดูและคนติดตามมาก สร้างโอกาสที่จะมีสปอนเซอร์มาสนับสนุน ทำให้ได้เงินเพิ่มไม่ยาก (อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับการหารายได้เสริม) 5.
ซื้อกองทุน LTF/RMF และประกันชีวิตเพื่อนำมาลดหย่อนภาษีเงินได้ สำหรับมนุษย์เงินเดือนส่วนใหญ่ หรือคนที่ยังไม่เชี่ยวชาญในตลาดหุ้น การลงทุนในกองทุนรวม 5. ลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ด้วยตัวเอง (มีความเสี่ยงสูง) การลงทุนในตลาดหลักทรัพย์นั้นมีความเสี่ยงมาก ดังนั้นผู้ลงทุนนั้นควรจะศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนการลงทุน ซึ่งในปัจจุบันก็มีแหล่งข้อมูลให้ศึกษาทั้งหนังสือการลงทุนเบื้องต้น ขอบคุณข้อมูล Author: Tuemaster Admin ทีมงานจากเว็บไซต์ติวกวดวิชาออนไลน์ที่ดีที่สุด!! สำหรับ การเรียนออนไลน์ ม. ปลาย (ม. 4, ม. 5, ม. 6) Post navigation
1. เปลี่ยนมาดื่มกาแฟชงเอง รู้ไหมว่า การดื่มกาแฟทุกวัน เป็นปัญหาที่คอยกวนใจการเก็บเงินของหลายคนได้แบบไม่น่าเชื่อเลย เพราะลองคิดดูถ้าเราดื่มกาแฟแบรนด์ดังที่ขายกันอยู่แก้วละประมาณ 120 บาท ทุกวัน แสดงว่าใน 1 ปี ต้องเสียเงินไปถึง 43, 800 บาท หรือเกือบครึ่งแสนเลยทีเดียว ดังนั้น วิธีแก้ง่ายๆ อาจจะลองเปลี่ยนมาดื่มกาแฟ ที่มีราคาถูกลง เช่น แก้วละประมาณ 30 บาท ก็จะช่วยให้เรามีเงินเก็บเพิ่มถึงปีละ 32, 850 บาท หรือถ้าหันมาชงเองที่มีราคาแค่ซองละประมาณ 5 บาท ยิ่งช่วยประหยัดได้อีกถึงปีละ 41, 975 บาทกันเลย 2.
19 เม. ย. 2565 เวลา 3:53 น. 158 เปิดบทเรียนราคาแพงดูไว้เป็นอุทาหรณ์ นอกจากนี้จะพาไปพูดคุยกับคนที่เคยบริหารเงินผิดพลาดในช่วงสงกรานต์เมื่อหลายปีที่ผ่านมา อย่าง " นราวิชญ์ จูนพิษ" เล่าให้ฟังเผื่อใครจะดูไว้เป็นอุทาหรณ์ เขาเล่าว่า ตั้งใจทำงานเก็บเงินเพื่อจะกลับบ้านเกิดไปหาญาติ แต่พอมีการดื่มกินกับเพื่อนก็ทำให้เขาไปเที่ยวต่อเรื่อย ๆ แทบทุกวันจนหมดตัวพอกลับกรุงเทพก็เงินหมด ซึ่งกว่าจะสิ้นเดือนก็อีกยาวนาน ทางรอดของเขาตอนนั้น วิธีบริหารเงิน คือ -นำทรัพย์สินที่มี เช่น สร้อยทอง นาฬิกา ไปจำนำก่อน -งดเที่ยว งดสังสรรค์ -หาข้าวสาร อาหารแห้ง ทำเมนูประหยัดทุกมื้อ -จำเป็นบทเรียน และกำหนดเป้าหมายวางแผนการเงินใหม่
9 วิธี มีเงินออม เงินเดือนน้อยก็มีเก็บได้ จากหลักร้อยถึงหลักแสน ปัญหาด้านการเงิน เป็นปัญหาสำหรับหลายๆคน และในหลายครอบครัว บางคนใช้เงินเดือนชนเดือน บางคนใช้ไม่พอเดือนก็ต้องหาหยิบยืมมาใช้ก่อน กลายเป็นหนี้เพิ่มพูน ไม่มีเงินเหลือเก็บ วันนี้เราจึงมีเคล็ดลับในการออมเงิน ที่จะช่วยให้คุณเริ่มต้นเก็บเงินให้อยู่ และมีเงินเหลือเก็บได้มากขึ้น 1. แบ่งเงินใช้ต่อวันให้ชัดเจน เป็นทริคเล็กๆน้อยๆที่จะช่วยให้คุณ เมื่อเงินเดือนออก ให้แบ่งเงินใช้จ่ายประจำวันกับเงินออมออกทันที เพื่อจัดสรรเงินเดือนของคุณได้ง่ายขึ้น กำหนดการใช้ในแต่ละวัน เช่น วันละไม่เกิน 120 บาท หากเหลือเก็บก็สามารถนำไปออมเพิ่มได้ การทำแบบนี้จะทำให้เราไม่อยากจะใช้จ่ายเงินเกินจากที่กำหนดในแต่ละวัน เพราะจะทำให้รู้สึกว่าใช้เงินเยอะเกินไป แนะนำว่าให้แบ่งใส่ถุงซิปล็อก หรือถุงพลาสติกไว้แต่ละวัน จนครบ 1 เดือน ส่วนภาระค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนก็ให้แบ่งไว้ต่างหาก และจ่ายทันที จะได้ไม่มีหนี้ค้างชำระมาให้ปวดหัวทีหลัง 2. ห่อข้าวไปกินที่ทำงาน คนวัยทำงาน อาจจะต้องเผื่อเวลา ตื่นเช้ากว่าปกติสักหน่อย เพื่อทำอาหารกลางวันห่อไปกินที่ทำงาน นอกจากจะประหยัดเงินได้แล้ว ยังประหยัดเวลา ไม่ต้องเหนื่อยออกไปกินข้างนอกอีกต่างหาก สำหรับน้องๆหนูๆที่อยู่ในวัยเรียน ก็สามารถให้คุณแม่ทำอาหารกลางวันเผื่อไว้ให้ด้วย แล้วห่อไปกินที่โรงเรียน จะเป็นการประหยัดเงินค่าขนม และมีเงินเหลือมาหยอดกระปุกได้เยอะเลยล่ะ เป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายในการกิน ซื้อมาทำกินเองก็จะถูกกว่าซื้อกินทุกวันอยู่แล้ว 3.
มีหลากหลายวิธีที่จะออมเงิน หรือนำเงินไปลงทุนเพื่อให้ได้ผลตอบแทน โดยวิธีการเก็บเงิน หรือออมเงินนั้นควรคำนึงถึงอุปนิสัย และเป้าหมายของการออม ไม่ว่าจะเป็นเคล็ดลับการออมเงินระยะสั้น หรือเคล็ดลับออมเงินระยะยาว และความเสี่ยงที่คุณสามารถรับได้ 1. เก็บเงินใส่กระปุกออมสินเป็นประจำ วิธีสุดแสนจะคลาสสิค ซึ่งแต่ละคนจะมีสไตล์ที่แตกต่างกันไป เช่น บางคนมักจะหยอดเหรียญลงกระปุกออมสิน หรือบางคนเมื่อมีแบงค์ 50 บาท ก็จะเก็บไว้ออม ไม่นำไปใช้จ่าย หรือบางคนเลือกที่จะเก็บแบงค์ใหม่เอี่ยม อีกทั้งบางคนยังเลือกที่จะเก็บเงิน และควบคุมความประพฤติของตัวเองควบคู่ไปกับการเก็บเงินด้วย 2. บันทึกรายรับรายจ่ายอย่างสม่ำเสมอให้เป็นนิสัย การบันทึกรายรับรายจ่ายของตัวเอง และเช็คอย่างสม่ำเสมอเป็นประจำทุกสิ้นเดือนจะทำให้รู้ว่าคุณใช้เงินไปกับส่วนไหนเท่าไหร่บ้าง หลังจากนั้นลองทบทวนดูว่ามีค่าใช้จ่ายส่วนไหนบ้างที่ไม่จำเป็นหรือพอประหยัดได้บ้าง 3. เปิดบัญชีเงินฝากประจำหักจากเงินเดือนโดยตรง เริ่มต้นจากกำหนดสัดส่วนเงินตามเป้าหมายที่คุณตั้งใจออม เช่น 10% ของเงินเดือน แล้วไปเปิดบัญชีฝากประจำกับธนาคารที่มีบัญชีเงินเดือนอยู่ โดยแจ้งความประสงค์ให้ทางธนาคารหักเงินออกจากบัญชีอัตโนมัติในวันที่เงินเดือนออก 4.