tas-go.com
ฉีกใบตองกว้าง 7 นิ้ว เช็ดให้สะอาด 2. ร่อนแป้งผสมเกลือ 3. ใส่กะทิคนให้เข้ากัน 4. เทใส่กะทะทองเหลืองหรือหม้อ ตั้งไฟขนาดกลาง คนพอแป้งข้นไม่สุก 5. ตักแป้งในตรงกลางใบตองพอควร แล้วห่อเหมือนกับห่อขนมชนิดยาว ห่อแบน ๆ ไม่ต้องกลัดไม้กลัด ล้อ แม็ ก isuzu มือ สอง ขอบ 17 mai ขนมไทยในภาคเหนือ | wangkham เด็ก จิ๋ว ว่า ย น้ำ ขนมไทยภาคกลาง - Noonoknoitisa ภาคกลาง |. : ครัวไทยสู่ครัวโลก:.
แช่ข้าวสารประมาณ 1 คืน นึ่งข้าวให้สุก เทใส่ชาม เทน้ำแตงโมผสมงาดำลงในชามข้าวเหนียว คลุกเคล้า ให้เข้ากัน 3. ใส่ข้าวในถุงพลาสติกเพื่อเก็บความร้อน 4. กดข้าวลงในพิมพ์วงกลม 5. แกะข้าวออกจากพิมพ์ นำข้าวแต๋นไปตากแดด 2 วัน 6. ทอดข้าวแต๋นในน้ำมันร้อนจัด 7. หยอดด้วยน้ำอ้อยที่เคี่ยวจนเหนียว เคล็ดลับในการปรุง การทำน้ำอ้อยสำหรับหยอดหน้าข้าวแต๋น ให้เคี่ยวน้ำอ้อยจนข้นเหนียว ทิ้งไว้ให้เย็นก่อนแล้วค่อยหยอดลงไปที่หน้าข้าวแต๋น เพื่อให้ข้าวแต๋นกรอบได้นานขึ้น เคล็ดลับในการเลือกเครื่องปรุง การทอดข้าวแต๋น หรือ จืนข้าวแต๋น ต้องทอดในน้ำมันที่ร้อนจัด แล้วพลิกกลับไปมาจะทำให้ข้าวแต๋นพองตัว และกรอบอร่อย ขนมเกลือ ชื่อพื้นบ้าน เข้าหนมเกลือ (เข้าหนมเกื๋อ) ส่วนผสม/อุปกรณ์ แป้งข้าวเจ้า? กิโลกรัม เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ กะทิข้น 5 ถ้วยตวง (น้ำตาลปีบ งาดำ) ใบตองอ่อนสำหรับห่อ กะทะทองเหลืองสำหรับกวน ลังถึงสำหรับนึ่ง 1. ฉีกใบตองกว้าง 7 นิ้ว เช็ดให้สะอาด 2. ร่อนแป้งผสมเกลือ 3. ใส่กะทิคนให้เข้ากัน 4. เทใส่กะทะทองเหลืองหรือหม้อ ตั้งไฟขนาดกลาง คนพอแป้งข้นไม่สุก 5. ตักแป้งในตรงกลางใบตองพอควร แล้วห่อเหมือนกับห่อขนมชนิดยาว ห่อแบน ๆ ไม่ต้องกลัดไม้กลัด 6.
ขนมหวานในภาคกลาง ส่วนใหญ่ทำมาจากข้าวเจ้า เช่น ข้าวตัง นางเล็ด ข้าวเหนียวมูน และมีขนมที่หลุดลอดมาจากรั้ววัง จนแพร่หลายสู่สามัญชนทั่วไป เช่น ลูกชุบ หม้อข้าวหม้อแกง ฝอยทอง ทองหยิบ ขนมตาล ขนมกล้วย ขนมเผือก เป็นต้น ข้าวเหนียวมูล ที่มา: ที่มา ส่วนผสม 1. ข้าวเหนียว 1 กิโลกรัม 2. หัวกะทิ 450 กรัม 3. เกลือป่น 3/4 ช้อนชา 4. น้ำตาลทราย 550 กรัม 5. ใบเตย 3-5 ใบ 6. ถั่วทอง 5 ช้อนโต๊ะ 7. น้ำใบเตย, น้ำแครอท, น้ำดอกอัญชัญหรือสีผสมอาหารตามชอบ วิธีทำ 1. นำข้าวเหนียวไปล้างทำความสะอาดและแช่น้ำทิ้งไว้ 1 คืน จากนั้นนำไปสะเด็ดน้ำ (กรณีต้องการทำข้าเหนียวที่มีสีต่างๆ ก็ให้ใส่สีลงไปในน้ำที่แช่ค้างคืนไว้ด้วย) 2. นำผ้าขาวบางรองไว้ในซึ้งหรือหม้อนึ่ง แล้วจึงนำข้างเหนียววางลงบนผ้าขาวบาง จากนั้นนำไปนึ่งจนข้าว เหนียวสุก 3. ในหม้อขนาดเล็ก ใส่น้ำตาล, เกลือป่น (3/4 ช้อนชา) และหัวกะทิ และนำไปตั้งบนไฟอ่อนๆ คนจนส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดี จากนั้นจึงใส่ใบเตยลงไป ทิ้งไว้สักพักจึงปิดไฟ 4. ในชามขนาดกลาง ใส่ข้าวเหนียวที่นึ่งไว้จนสุกดีแล้วลงไป จากนั้นจึงใส่น้ำกะทิที่เคี่ยวไว้ในขั้นตอนที่สามตามลงไป คนจนส่วนผสมเข้ากันทั่ว และทิ้งไว้อย่างน้อย 15 นาที ก็สามารถนำไปเสริฟได้ (เวลาเสริฟอาจโรยหน้าด้วยถั่วทอง) ขนมหม้อแกง ส่วนผสม 1.
ใส่ความเห็น Enter your comment here... Fill in your details below or click an icon to log in: อีเมล (ต้องการ) (Address never made public) ชื่อ (ต้องการ) เว็บไซต์ You are commenting using your account. ( Log Out / เปลี่ยนแปลง) You are commenting using your Twitter account. You are commenting using your Facebook account. ยกเลิก Connecting to%s Notify me of new comments via email. Notify me of new posts via email.
วางห่อขนมเรียงในลังถึง นึ่งไฟแรงประมาณ 15-20 นาที แล้วยกลง หมายเหตุ อาจใช้น้ำตาลปีบผสมกับแป้ง และโรยด้วยงาดำนิดหน่อย จะทำให้ขนมมีรสหวานและเป็นสี น้ำตาลอ่อน มีจุดดำ ๆ กระจายเป็นจุด ๆ จะไม่ใส่งาดำใส่และน้ำตาลก็ได้ ประโยชน์ รับประทานเป็นขนม หรือของว่าง นิยมทำให้เด็กเล็กรับประทาฯ ทำง่าย ปัจจุบันนอกจากทำรับประทานในครอบครัว หรือทำบุญถวายพระแล้ว ยังทำขายเป็นอาชีพได้
ผสมน้ำ น้ำตาลทราย ตั้งไปให้เดือด พอเหนียว ตักน้ำเชื่อมขึ้นใส่ถาดไว้พอประมาณ ส่วนที่เปลือตั้งไฟต่อไป 2. แยกไข่แดง ไข่ขาว 3. ตีไข่แดงให้ขึ้น ไข่จะเปลี่ยนเป็นสีนวล 4. ตักไข่ที่ตีได้ที่แล้วหยอดลงในน้ำเชื่อมที่ตั้งอยู่บนไฟอ่อนให้เป็นวงกลมพอสุกกลับอีกด้านหนึ่งลง 5. ตักแผ่นทองหยิบขึ้นวางในน้ำเชื่อมที่เตรียมไว้ ใช้นิ้วหัวแม่มือ นิ้วกลาง นิ้วชี้ ของมือซ้าย หยิบไข่ ตามด้วย นิ้วหัวแม่มือนิ้วชี้ ของมือขวา หยิบขึ้นใส่ในถ้วยตะไล ผสมน้ำ น้ำตาลทราย ตั้งไปให้เดือด พอเหนียว ตักน้ำเชื่อมขึ้นใส่ถาดไว้พอประมาณ ส่วนที่เปลือตั้งไฟต่อไป จังหวัดนนทบุรี ขนมจ่ามงกุฎ ขนมจ่ามงกุฎ ในโบราณเป็นขนมที่ทำขึ้นเพื่อประกอบเครื่องคาวหวานในงานมงคล ไม่ว่าจะเป็นงานบุญหรืองานประเพณีต่างๆ ของไทย การเลือกชนิดขนมมาใช้ใน งานมงคลโดยมากจะเลือกจากชื่อขนมที่มีคำความหมายดีๆ ขนมจ่ามงกุฎ มีส่วนผสม ประกอบด้วย 3 ส่วน ส่วนตัวขนม ส่วนแป้งรองขนม และส่วนการแต่งขนม (ลูกกวาดแตงกวา) 7. จังหวัดปทุมธานี กาละแม กาละแม เป็นขนมไทยโบราณที่นิยมทำกันในช่วงเทศกาลสงกรานต์หรือวันปีใหม่ ของไทยเพื่อใช้ในงานบุญและใช้แจกในงานเทศกาลแก่ญาติผู้ใหญ่และพี่น้อง กาละแม มีส่วนผสมประกอบด้วย ข้าวเหนียว น้ำตาลทราย กะทิ และน้ำสะอาดต้มสุก 8.
จากนั้นจึงแต่งหน้าด้วยน้ำมันพริกเผาเล็กน้อย ทอดข้าวตังให้สุกเหลืองกรอบ เสิร์ฟคู่กัน ทองหยิบ ความหมายทองหยิบ เป็น ขนมมงคล ชนิดหนึ่ง มี ลักษณะ งดงามคล้าย ดอกไม้สีทอง ต้องใช้ความสามารถและ ความพิถีพิถัน เป็นอย่างมาก ใน การ ประดิษฐ์ประดอย จับกลีบให้มีความงดงามเหมือนกลีบดอกไม้ ชื่อ ขนมทองหยิบ เป็นชื่อ สิริมงคล เชื่อว่าหากนำไปใช้ประกอบ พิธีมงคล ต่างๆ หรือให้เป็น ของขวัญ แก่ใครแล้ว จะทำให้เกิดความมั่งคั่งร่ำรวย หยิบจับ การงาน สิ่งใดก็จะ ร่ำรวย มีเงินมีทอง สมดังชื่อ "ทองหยิบ" ส่วนผสมของขนมทองหยิบ ไข่เป็ด 10 ฟอง น้ำตาลทราย 1 กิโลกรัม น้ำลอยดอกมะลิ 5 ถ้วยตวง 1. ผสมน้ำ น้ำตาลทราย ตั้งไปให้เดือด พอเหนียว ตักน้ำเชื่อมขึ้นใส่ถาดไว้พอประมาณ ส่วนที่เปลือตั้งไฟต่อไป 2. แยกไข่แดง ไข่ขาว 3. ตีไข่แดงให้ขึ้น ไข่จะเปลี่ยนเป็นสีนวล 4. ตักไข่ที่ตีได้ที่แล้วหยอดลงในน้ำเชื่อมที่ตั้งอยู่บนไฟอ่อนให้เป็นวงกลมพอสุกกลับอีกด้านหนึ่งลง 5. ตักแผ่นทองหยิบขึ้นวางในน้ำเชื่อมที่เตรียมไว้ ใช้นิ้วหัวแม่มือ นิ้วกลาง นิ้วชี้ ของมือซ้าย หยิบไข่ ตามด้วย นิ้วหัวแม่มือนิ้วชี้ ของมือขวา หยิบขึ้นใส่ในถ้วยตะไล
ส่วนใหญ่ทำมาจากข้าวเจ้า เช่น ข้าวตัง นางเยี่ยวเล็ด ข้าวเหนียวมูน และมีขนมที่หลุดลอดมาจากรั้ววัง จนแพร่หลายสู่สามัญชนทั่วไป เช่น ขนมกลีบลำดวน ลูกชุบ หม้อข้าวหม้อแกง ฝอยทอง ทองหยิบ ขนมตาล ขนมกล้วย ขนมเผือก เป็นต้น เครดิต: