tas-go.com
สะเดา สะเดา มีสรรพคุณในการต้านเชื้อราได้เป็นอย่างดีโดยเฉพาะกับผิวหนังของเรา วิธีทำก็คือนำสะเดาไปต้มจนออกกลิ่นหลังจากนั้นนำผ้าสะอาดมาชุบน้ำสะเดาแล้วนำไปทาบริเวณที่เป็นเชื้อรา เพียงเท่านี้โรคผิวหนังก็จะหายไปเป็นปลิดทิ้ง 4. มะระ มะระที่เรารู้ดีว่าหากกินบ่อยๆ จะช่วยให้เจริญอาหาร ซึ่งไม่เพียงแค่นั้น เพราะมะระยังสามารถรักษาโรคผิวหนังได้ดีอีกด้วย เพียงนำมะระไปตากแห้ง แล้วนำไปบดจนเป็นผง ผสมน้ำเล็กน้อย นำไปพอกลงบริเวณที่เป็นผื่นคันก็จะช่วยได้อย่างมากเลยทีเดียว 5. ตำลึง ตำลึงเป็นสมุนไพรที่หาง่ายตามรั้วบ้าน และหากกินเป็นประจำยังสามารถช่วยบำรุงสายตาได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ตำลึงยังช่วยแก้โรคผิวหนังได้ดีอีกเช่นกัน เพียงบดตำลึงสดผสมกับน้ำสะอาดแล้วนำไปทาบริเวณที่เป็นโรค เพียงเท่านี้อาการของโรคผิวหนังที่เกิดขึ้นก็จะค่อยๆ ทุเลาลงได้ เห็นไหมคะว่าประโยชน์ของสมุนไพรนั้นมีมากมายเพียงใด โดยเฉพาะสมุนไพรรักษาโรคผิวหนังทั้ง 5 ชนิดเหล่านี้ อยากให้ผิวหนังสุขภาพดี ไม่มีอาการผดผื่นคันกวนใจ ลองหาสมุนไพรเหล่านี้มาทำการรักษาดู รับรองว่าจะช่วยให้อาการดีขึ้น โดยที่ไม่ต้องเสียเงินพึ่งพายาแผนปัจจุบันให้สิ้นเปลืองเลย
ข่า ใช้เหง้าสดของข่า ตำผสมกับเหล้าโรง ใช้ทารักษาโรคผิวหนังที่เกิดจากเชื้อรา เช่น กลาก เกลื้อน 2. กระเทียม หาง่ายเพราะแทบทุกบ้านมักจะมีกระเทียมไว้ทำกับข้าวอยู่ประจำใช้กลีบกระเทียมฝานเป็นชิ้นบางๆหรือตำพอแหลก ทาบริเวณที่เป็นกลากเกลื้อน วันละ 2 ครั้ง หลังจากหายแล้วให้ทายาต่อไปอีก 7-10 วัน 3. ชุมเห็ดเทศ ให้นำใบชุมเห็ดเทศสด 3 ใบมาตำให้ละเอียด ผสมปูนแดงที่ใช้กินกับหมากและน้ำเล็กน้อย ผสมให้เข้ากันใช้ทาบริเวณที่เป็นกลากเกลื้อนบ่อยๆ อีกวิธีหนึ่งคือใช้ใบชุมเห็ดเทศสดมาตำแล้วแช่เหล้าขาวพอท่วมยาไว้ประมาณ 3-5 วัน หมั่นคนยาที่แช่ไว้บ่อยๆ แล้วเอาส่วนที่เป็นน้ำมาทาบริเวณที่เป็นกลากเกลื้อนวันละ 2-3 ครั้งจนกว่าจะหาย 4. ข่า ใช้เหง้าสดตำ หรือทุบพอแตก หรือฝานเป็นแว่นบางๆ ผสมกับเหล้าขาวพอท่วม ทิ้งไว้หนึ่งคืน ใช้ทารักษาโรคผิวหนังที่เกิดจากเชื้อรา เช่น กลาก เกลื้อน 5. มะคำดีควาย ใช้ผลทุบให้แตกแช่น้ำ หรือต้มกับน้ำแล้วนำน้ำที่ได้มาสระผม แก้รังแค และสามารถยับยั้งการเจริญของเชื้อราที่ทำให้เกิดโรคกลากได้ดี 6. ทองพันชั่ง ใช้ใบสดและรากโขลกละเอียด แช่เหล้าขาว 1 อาทิตย์ แล้วเอาน้ำเหล้าทาบริเวณที่มีอาการกลาก เกลื้อน วันละ 2-4 ครั้ง เมื่ออาการดีขึ้นหรือหายแล้วให้ทาต่อไปอีก 7 วัน 7.
รักษามือและเท้าให้สะอาด และหลีกเลี่ยงการทำให้อับชื้น 2. สวมใส่รองเท้าที่ไม่คับจนเกินไปและไม่ใส่รองเท้าที่อาจมีการสะสมของเชื้อรา 3. สวมรองเท้าและถุงเท้าจากวัสดุธรรมชาติ เพราะจะช่วยให้ระบายอากาศบริเวณเท้าได้ดีขึ้น 4. ตัดเล็บให้สั้นอยู่เสมอ และหลีกเลี่ยงการใช้กรรไกรตัดเล็บร่วมกับผู้อื่น 5.